กำลังปรับปรุงบล็อกครับ ที่ปรึกษากิติมศักดิ์ อาจารย์กิตติมา เมฆาบัญชากิจ
e-Travel : อยากให้มีระบบที่ช่วยในการจัดหาเส้นทางการเดินทางที่จะไปเช่น ถ้าเราอยู่ที่ท่าน้ำนนท์เราจะไปอนุเสาวรีย์เราจะไปยังไงได้บ้างและเสียค่าเดินทางแต่ล่ะทางเลือกเท่าไรอาจจะไม่ใช่แค่รถเมล์นะ จะรวมถึง taxi ,รถไฟฟ้า ด้วยระบบก็จะทำการค้นหาเส้นทางให้ เช่น ระยะทางทั้งหมด 12 กิโลเมตร- โดยสารโดย Taxi เสียค่าใช้จ่าย 85 บาท- โดยสารโดยรถเมล์สาย 18 เสียค่าใช้จ่าย 7 บาท- โดยสารโดยรถเมล์สาย 97 เสียค่าใช้จ่าย 7/18 บาท ต่อรถไฟฟ้าจากสถานีอารีย์ - อนุเสาวรีย์ เสียค่าใช้จ่าย 20 บาท รวม 27/38 บาทประมาณนี้ครับ
อืม เป็นความคิดที่ดีครับ ผนวกเข้ากะE-map ของผมได้มั๊ยนะ เดี๋ยวมาระดมสมองกานครับ
ของตั้มเป็นไงอ่ะ อธิบายคร่าวๆ หน่อยของเราแค่เสนอก่อนแล้วเดี๋ยวมารวมกำลังสมอง เพิ่มรอยยัก...บนใบหน้าอีกที
เดี๋ยวรายละเอียดจะลองหาคร่าวๆไปให้ดูนะครับคงประมาณว่าเอาแผนที่เส้นทางการคมนาคมมาผนวกกับ e travel อ่ะครับแล้วดูบน pda ได้หรือไม่ก็ บนมือถือ ได้อ่ะ คร่าวๆ ๆนะ ข้อมูลยังไม่มี ฮ่าๆๆ
OK ได้คับๆ
ระบบ One Card Service : เป็นระบบที่จะเก็บรวบรวมข้อมูล และประวัติส่วนตัว ของเจ้าของบัตร โดยข้อมูลนี้จะเก็บไว้ที่ ศูนย์กลางข้อมูลเพื่อนำไปใช้ในการติดต่อขอรับบริการต่างๆ เช่น1. การรักษาพยาบาล : ในการที่จะเข้ารักษาที่โรงพยาบาลแห่งใดแห่งหนึ่งเราต้องกรอกประวัติส่วนตัวให้กับโรงพยาบาลแห่งนั้น หากมีระบบ One Card Service ที่เก็บข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับเราไว้แล้วนั้น โรงพยาบาลที่เราเข้าไปรักษาแต่ยังไม่มีประวัติการรักษาอยู่ ทางโรงพยาบาล ก็สามารถที่จะขอประวัติส่วนตัว ของผู้ถือบัตรจากศูนย์ข้อมูลได้เลย โดยที่เราไม่จำเป็นต้องเสียเวลามาทำการกรอกข้อมูลใหม่ และในข้อมูลนี้ยังมีประวัติการรักษาของเราในโรงพยาบาลอื่นๆ ว่าเรามีโรคประจำตัวหรือไม่ เคยรักษาโรคอะไรมาแล้วบ้าง เคยผ่าตัดหรือไม่ แพ้ยาอะไรหรือเปล่า ซึ่งจะเป็นประโยชน์มากต่อการรักษาพยาบาล นอกจากนี้ยัง ตรวจสอบได้อีกว่า เรามีประกันสังคม หรือ ทำประกันไว้ที่ไหนบ้าง แล้วได้ส่วนลดในการรักษาเท่าไหร่ คิดว่าน่าจะสะดวกสบายมากๆๆๆๆ2. การจองตั๋วเครื่องบิน : ในการจองตั๋วเครื่องบินแต่ละครั้ง เราต้องกรอกข้อมูลส่วนตัวของเราเข้าไปด้วย ใช่ไม๊ค่ะในเมื่อเรามีข้อมูลอยู่ที่ศูนย์กลางข้อมูลแล้ว เราก็ไม่จำเป็นต้องกรอกข้อมูลอะไรอีก แค่เราให้ทางศูนย์ข้อมูลส่งข้อมูลไปให้กับทางสนามบิน ว่าเราจะไปที่ไหน เวลาเท่าไหร่ นอกนั้นเราก็มีข้อมูลที่เก็บไว้อยู่แล้ว ว่าเราชอบไปสายการบินอะไร เท่านี้เราก็ไม่ต้องวุ่นวายกับการกรอกข้อมูลอีกแล้วค่ะนอกจากทั้งสองอย่างที่กล่าวมาแล้ว อาจมีบริการอื่นๆ อีกมากมายที่สามารถใช้บริการได้ โดยการใช้ One Card Service นี้ จะมีเพียงผู้ที่ถือบัตรเท่านั้นที่ใช้ได้โดยการใช้ ก็ต้องมี รหัส password ที่ใช้ในการติดต่อกับศูนย์ข้อมูล เช่น ถ้าเราต้องการจองตั๋วเครื่องบินไป อเมริกา ตอน สองทุ่ม เราก็โทรศัพย์ไปที่ศูนย์กลางข้อมูลแล้วให้ศูนย์กลางข้อมูลจัดการติดต่อกับสนามบินให้เรา อย่างโรงพยาบาลก็เหมือนกัน ถ้าเรามีประวัติอยู่ีที่ยันฮี แต่เราอยากไปรักษาที่ ศิริราช ซึ่งที่ศิริราช เรายังไม่มีข้อมูล ประวัติ หรือการรักษาอยู่ เราก็แค่ ติดต่อศูนย์ให้ศูนย์ส่งข้อมูลมาให้โรงพยาบาล คิดว่าถ้ามีระบบนี้ น่าจะสะดวกสบายมากๆๆๆคือว่าอยากทำระบบประมาณนี้อ่ะค่ะ เพราะตอนไปโรงพยาบาลต้องต่อคิวทำบัตร นั่งรอ รอนานมาก เลยคิดอยากจะทำ คิดว่าถ้ามีระบบนี้ คงไม่ต้องนั่งรอ 55
แสดงความคิดเห็น
6 ความคิดเห็น:
e-Travel : อยากให้มีระบบที่ช่วยในการจัดหาเส้นทางการเดินทางที่จะไป
เช่น ถ้าเราอยู่ที่ท่าน้ำนนท์เราจะไปอนุเสาวรีย์เราจะไปยังไงได้บ้างและเสียค่าเดินทางแต่ล่ะทางเลือกเท่าไร
อาจจะไม่ใช่แค่รถเมล์นะ จะรวมถึง taxi ,รถไฟฟ้า ด้วย
ระบบก็จะทำการค้นหาเส้นทางให้ เช่น
ระยะทางทั้งหมด 12 กิโลเมตร
- โดยสารโดย Taxi เสียค่าใช้จ่าย 85 บาท
- โดยสารโดยรถเมล์สาย 18 เสียค่าใช้จ่าย 7 บาท
- โดยสารโดยรถเมล์สาย 97 เสียค่าใช้จ่าย 7/18 บาท ต่อรถไฟฟ้าจากสถานีอารีย์ - อนุเสาวรีย์ เสียค่าใช้จ่าย 20 บาท รวม 27/38 บาท
ประมาณนี้ครับ
อืม เป็นความคิดที่ดีครับ ผนวกเข้ากะ
E-map ของผมได้มั๊ยนะ เดี๋ยวมาระดมสมองกานครับ
ของตั้มเป็นไงอ่ะ อธิบายคร่าวๆ หน่อย
ของเราแค่เสนอก่อนแล้วเดี๋ยวมารวมกำลังสมอง เพิ่มรอยยัก...บนใบหน้าอีกที
เดี๋ยวรายละเอียดจะลองหาคร่าวๆไปให้ดูนะครับ
คงประมาณว่าเอาแผนที่เส้นทางการคมนาคมมาผนวกกับ e travel อ่ะครับแล้วดูบน pda ได้หรือไม่ก็ บนมือถือ ได้อ่ะ คร่าวๆ ๆนะ ข้อมูลยังไม่มี ฮ่าๆๆ
OK ได้คับๆ
ระบบ One Card Service : เป็นระบบที่จะเก็บรวบรวมข้อมูล และประวัติส่วนตัว ของเจ้าของบัตร โดยข้อมูลนี้จะเก็บไว้ที่ ศูนย์กลางข้อมูลเพื่อนำไปใช้ในการติดต่อขอรับบริการต่างๆ เช่น
1. การรักษาพยาบาล : ในการที่จะเข้ารักษาที่โรงพยาบาลแห่งใดแห่งหนึ่งเราต้องกรอกประวัติส่วนตัวให้กับโรงพยาบาลแห่งนั้น หากมีระบบ One Card Service ที่เก็บข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับเราไว้แล้วนั้น โรงพยาบาลที่เราเข้าไปรักษาแต่ยังไม่มีประวัติการรักษาอยู่ ทางโรงพยาบาล ก็สามารถที่จะขอประวัติส่วนตัว ของผู้ถือบัตรจากศูนย์ข้อมูลได้เลย โดยที่เราไม่จำเป็นต้องเสียเวลามาทำการกรอกข้อมูลใหม่ และในข้อมูลนี้ยังมีประวัติการรักษาของเราในโรงพยาบาลอื่นๆ ว่าเรามีโรคประจำตัวหรือไม่ เคยรักษาโรคอะไรมาแล้วบ้าง เคยผ่าตัดหรือไม่ แพ้ยาอะไรหรือเปล่า ซึ่งจะเป็นประโยชน์มากต่อการรักษาพยาบาล นอกจากนี้ยัง ตรวจสอบได้อีกว่า เรามีประกันสังคม หรือ ทำประกัน
ไว้ที่ไหนบ้าง แล้วได้ส่วนลดในการรักษาเท่าไหร่ คิดว่าน่าจะสะดวกสบายมากๆๆๆๆ
2. การจองตั๋วเครื่องบิน : ในการจองตั๋วเครื่องบินแต่ละครั้ง เราต้องกรอกข้อมูลส่วนตัวของเราเข้าไปด้วย ใช่ไม๊ค่ะในเมื่อเรามีข้อมูลอยู่ที่ศูนย์กลางข้อมูลแล้ว เราก็ไม่จำเป็นต้องกรอกข้อมูลอะไรอีก แค่เราให้ทางศูนย์ข้อมูลส่งข้อมูลไปให้กับทางสนามบิน ว่าเราจะไปที่ไหน เวลาเท่าไหร่ นอกนั้นเราก็มีข้อมูลที่เก็บไว้อยู่แล้ว ว่าเราชอบไปสายการบินอะไร เท่านี้เราก็ไม่ต้องวุ่นวาย
กับการกรอกข้อมูลอีกแล้วค่ะ
นอกจากทั้งสองอย่างที่กล่าวมาแล้ว อาจมีบริการอื่นๆ อีกมากมายที่สามารถใช้บริการได้ โดยการใช้ One Card Service นี้ จะมีเพียงผู้ที่ถือบัตรเท่านั้นที่ใช้ได้โดยการใช้ ก็ต้องมี รหัส password ที่ใช้ในการติดต่อกับศูนย์ข้อมูล เช่น ถ้าเราต้องการจองตั๋วเครื่องบินไป อเมริกา ตอน สองทุ่ม เราก็โทรศัพย์ไปที่ศูนย์กลางข้อมูลแล้วให้ศูนย์กลางข้อมูลจัดการติดต่อกับสนามบินให้เรา อย่างโรงพยาบาลก็เหมือนกัน ถ้าเรามีประวัติอยู่ีที่ยันฮี แต่เราอยากไปรักษาที่ ศิริราช ซึ่งที่ศิริราช เรายังไม่มีข้อมูล ประวัติ หรือการรักษาอยู่ เราก็แค่ ติดต่อศูนย์ให้ศูนย์ส่งข้อมูลมาให้โรงพยาบาล คิดว่าถ้ามีระบบนี้ น่าจะสะดวกสบายมากๆๆๆ
คือว่าอยากทำระบบประมาณนี้อ่ะค่ะ เพราะตอนไปโรงพยาบาลต้องต่อคิวทำบัตร นั่งรอ รอนานมาก เลยคิดอยากจะทำ คิดว่าถ้ามีระบบนี้ คงไม่ต้องนั่งรอ 55
แสดงความคิดเห็น